จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับศึกแดงเดือดยกที่สองของฤดูกาล 2024-25 ซึ่งกลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 ทั้งที่ "หงส์แดง" ถูกมองว่าเป็นต่อ "ปีศาจแดง" เยอะพอตัว ซึ่งเราจะมาพูดถึงเกร็ดจากเกมนี้สักหน่อย

- ตามหลังอีกครั้ง

ในเกมลีก 6 นัดหลังสุดนั้น เชื่อหรือไม่ว่ามีถึง 4 เกมที่ ลิเวอร์พูล ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งไปก่อน 0-1 ทั้งที่ในเกมลีก 13 นัดแรกของซีซั่นนี้พวกเขาตกอยู่ภายใต้สถานการณ์แบบที่ว่าเพียงแค่ 4 หน

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้มีแต่ด้านลบซะทีเดียว เพราะตอนนี้เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล ได้แต้มจากเกมที่เป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนในซีซั่นนี้ 13 คะแนนเข้าไปแล้ว โดยในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลปัจจุบัน มีเพียง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เก็บแต้มจากเกมที่ตามหลังไปก่อนได้มากกว่าพวกเขา จากการทำได้ 14 แต้ม

- แมนยู รอดจากสถิติน่าอับอาย

ก่อนลงเล่นเกมนี้ แมนยูไนเต็ด แพ้ในลีกมา 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งตอนแรกถ้าพวกเขาแพ้เกมนี้อีกมันก็จะทำให้เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1979 เลยที่ทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ปราชัยในเกมลีกภายในฤดูกาลเดียวกันมากถึง 4 เกมรวด แต่ทีมของ รูเบน อโมริม ก็รอดจากเรื่องนั้นได้

- รอมานาน

รู้หรือไม่ว่าครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่ แมนยูไนเต็ด บุกมายิงที่ แอนฟิลด์ ได้อย่างน้อย 2 ลูกในเกมเดียวมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ? เฉลยก็คือเมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2012 โดยวันนั้น "ปีศาจแดง" ได้ชัยชนะ 2-1 กลับบ้านจากผลงานของ ราฟาเอล ดา ซิลวา และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

- ความเก่งกาจของ ซาลาห์

ผลงานในเกมนี้ทำให้เท่ากับว่า ซาลาห์ ทำประตูหรือแอสซิสต์ในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 12 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว จนทำให้มันถือเป็นครั้งที่ 3 ที่เขาทำผลงานแบบนั้นได้อย่างน้อย 12 นัดรวด ต่อจากที่เคยทำได้ 12 นัดติดเหมือนกันในปี 2023 และที่เคยทำเอาไว้ 15 นัดติดในปี 2021

ยิ่งไปกว่านั้น ซาลาห์ ยังทุบสถิติการเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดภายในช่วง 19 นัดแรกของศึก พรีเมียร์ลีก แต่ละฤดูกาลด้วย เพราะตัวเลขของเขาอยู่ที่ 31 ลูก แบ่งเป็นการยิงเอง 18 ประตูกับ 13 แอสซิสต์ ส่วนเจ้าของสถิติเดิมไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น หลุยส์ ซัวเรซ รุ่นพี่ของเขาในรั้ว แอนฟิลด์ ที่เคยทำได้ 30 ลูกในช่วง 19 นัดแรกของฤดูกาล 2013-14 โดยตอนนั้น ซัวเรซ ทำไป 23 ประตูกับ 7 แอสซิสต์

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa