ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ 0 – ลิเวอร์พูล 2

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกประจำสัปดาห์ แมนฯ ซิตี้ ไม่มี เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่งที่ฟิตไม่ทัน ส่วน ลิเวอร์พูล ได้ โคดี้ กัคโป ฟิตกลับมาเป็นสำรอง โดยแนวรุกวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซบอสไล, เคอร์ติส โจนส์ และ หลุยส์ ดิอาซ เล่นร่วมกัน

แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้มากกว่าช่วงแรก แต่กลับเป็น ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำ 1-0 ในนาที 14 จากเตะมุมลูกสูตรที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เปิดยัดไปเสาแรกให้ โดมินิก โซบอสไล ตวัดไปหน้าเขตโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กดด้วยซ้ายแฉลบ นาธาน อาเก้ เข้าประตู

เจ้าถิ่นส่งบอลตุงตาข่ายได้ในนาที 30 จากจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น ไหลให้ โอมาร์ มาร์มูช หลุดไปซัดมุมแคบฝั่งขวาเข้าไป ทว่า มาร์มูช ถูกจับล้ำหน้า แฟนเรือใบจึงเฮเก้อ

พอทำไม่ได้กลับเป็น ลิเวอร์พูล ที่หนีเป็น 2-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดขึ้นทางขวาก่อนโยกหนี ยอสโก้ กวาร์ดิโอล แล้วไหลให้ โดมินิก โซบอสไล จับหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้ายตุงตาข่าย

เรือใบหาช่องเจาะลำบาก ช่วงทดเจ็บต้องมาลุ้นยิงไกลจาก นิโก้ กอนซาเลซ ที่ซัดแฉลบทำให้น้ำหนักบอลหายไป และไม่เข้ากรอบ ก่อนจบครึ่งแรกที่ ลิเวอร์พูล นำ 2-0

ครึ่งหลังนาที 54 ลิเวอร์พูล ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากจังหวะที่ โดมินิก โซบอสไล หลุดไปเปิดให้ เคอร์ติส โจนส์ ยิงเข้าไป ทว่ามีการเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดว่า โซบอลไล ล้ำหน้า แมนฯ ซิตี้ รอดตัวไป

อีก 4 นาทีถัดมา แมนฯ ซิตี้ ตอบโต้คืนและจบด้วยการยิงของ มาร์มูช ทว่าติดเซฟ อาลีสซง จากนั้น เป๊ป ตัดสินใจถอด เดอ บรอยน์ ออกแล้วส่ง เจมส์ แม็คอาตี้ ลงแทน

นาที 84 ลิเวอร์พูล เกือบได้ลูกสามเมื่อแนวรับซิตี้ออกบอลไม่ดี ซาลาห์ จึงได้ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ โซบอสไล ตามไปซัดจ่อๆ ทว่า คูซานอฟ พุ่งมาบล็อกได้เส้นยาแดงผ่าแปด

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ่้นอีก ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 64 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 อาร์เซน่อล 11 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa