ดูหนังเรื่อง Larry the Cable Guy: Health Inspector

          Larry the Cable Guy: Health Inspector เป็นภาพยนตร์ตลกอเมริกันปี 2006 ดูหนัง ที่นำแสดงโดยนักแสดงตลกชาวอเมริกันลาร์รี เดอะ เคเบิลกาย แลร์รี่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสุขภาพร้านอาหารของเทศบาล ได้รับมอบหมายให้ทำงานร่วมกับเอมี่ บัตลิน (ไอริส บาห์ร) เพื่อนร่วมงานมือใหม่ เป็น หนังออนไลน์ ที่เล่าเรื่องหลังจากที่เขาสั่งปิดร้านอาหารอย่างไม่ระมัดระวังเนื่องจากละเมิดกฎข้อบังคับโดยบาร์ต แทตล็อค (ทอม วิลสัน) เจ้านายของเขา แลร์รี่ และเอมี่ร่วมมือกันแก้ปัญหาอาหารเป็นพิษที่เกิดขึ้นในร้านอาหารระดับสี่ดาว

เนื้อเรื่อง

          แลร์รี่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสุขภาพในเมืองใหญ่ที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัยและมีวิธีการทำงานเป็นของตัวเอง บาร์ต แทตล็อค เจ้านายของแลร์รี่ พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของเขาเพื่อไล่เขาออก จึงมอบหมายให้เอมี่ บัตลิน หุ้นส่วนคนใหม่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยึดถือหลักการและทำงานนี้อย่างจริงจัง เธอพยายามเรียนรู้ขั้นตอนการตรวจสอบสุขภาพควบคู่ไปกับการอดทนกับแลร์รี่และบุคลิกภาพของเขา รวมถึงหาข้อมูลที่แทตล็อคต้องการเพื่อไล่แลร์รี่ออก

สนับสนุนโดย ดูหนัง.live ดูหนังออนไลน์

          ขณะที่แลร์รี่และเอมี่ทำงานเป็นทีมตรวจสอบสุขภาพของเมือง อาชญากรต่อเนื่องกำลังวางยาพิษร้านอาหารระดับสี่ดาว แทตล็อคพยายามหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนกและควบคุมเรื่องการวางยาพิษ โดยมอบหมายให้คนเก่งกว่าทำงานแทนแลร์รี่ แลร์รี่และเอมี่ถูกเรียกตัวไปตรวจสอบเรื่องการวางยาพิษครั้งหนึ่ง แต่แทตล็อคห้ามไม่ให้พวกเขาทำงานในคดีสำคัญเช่นนี้ แลร์รี่และเอมี่ยังคงตรวจสอบร้านอาหารระดับล่างต่อไป แต่นายกเทศมนตรีมอริซ ที. กันน์ผู้รักเต้านมกลับถูกหลอกให้มอบหมายให้แลร์รี่และเอมี่รับผิดชอบคดีวางยาพิษที่สำคัญกว่า ซึ่งยิ่งทำให้แลร์รี่และเอมี่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แลร์รี่และเอมี่จึงแอบไปที่ร้านแห่งหนึ่งและได้เทปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างนายกเทศมนตรีกันน์กับเชฟลีออน ซึ่งเชฟได้ชี้แจงคำขอของกันน์ที่ต้องการให้วางยาพิษในอาหารที่เชฟลีออนกำลังปรุงอยู่

          แลร์รี่และเอมี่ขัดจังหวะนายกเทศมนตรีระหว่างการสัมภาษณ์โดยให้หลักฐานประกอบ แต่นายกเทศมนตรีอธิบายว่าเชฟลีออนกำลังตอบโต้คำสั่งของนายกเทศมนตรีที่ให้ราดมัสตาร์ดของเฟรนช์ ลงบน ไก่พิคคาต้าของกันน์ซึ่งเชฟลีออนผู้ถูกดูหมิ่นมองว่าเป็นการเปรียบเปรยถึงการ "วางยาพิษ" ต่องานในชีวิตของเขา เมื่อแลร์รี่พูดคุยกับเชฟลีออนทางโทรศัพท์ เชฟลีออนก็ยืนยันการตีความนี้ ผลที่ตามมาคือแทตล็อคจึงไล่แลร์รี่ออก

           แลร์รี่ผู้สิ้นหวังเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนเก่า บิ๊กชัก แต่สุดท้ายก็ทำให้เขาเหินห่างจากเขาไปเช่นกัน ขณะมุ่งหน้าไปยังบ้านของเจน คนรักของเขา แลร์รี่เห็นเธอและแม่ (ลิซ่า แลมพาเนลลี) กำลังเพลิดเพลินกับการพบปะสังสรรค์อย่างเป็นกันเองกับนายกเทศมนตรี แลร์รี่รู้สึกราวกับว่าชีวิตของเขาตกต่ำถึงขีดสุด จึงตัดสินใจไขคดีวางยาพิษ เขาเผชิญหน้ากับนายกเทศมนตรีกันน์ ซึ่งเปิดเผยว่าลิลี่ มิเชลลี เจ้าของร้านอาหารของมิเชลลี สั่งให้เขาตรวจสอบให้แน่ใจว่าแลร์รี่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีวางยาพิษ แลร์รี่และเอมี่ตระหนักว่ามิเชลลีทำเช่นนี้เพื่อให้แน่ใจว่าคดีนี้ถูกสอบสวนอย่างไร้ความสามารถ เพราะเธอคือผู้อยู่เบื้องหลังการวางยาพิษ ในการบันทึกเทปรายการแข่งขันทำอาหาร ทางโทรทัศน์ Top Chef แลร์รี่และเอมี่ได้เปิดโปงความผิดของมิเชลลีและจับกุมเธอ และได้รับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์

การผลิต

           ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2548 Paramount Home Entertainment ได้เซ็นสัญญากับ Parallel Entertainment Pictures เพื่อทำข้อตกลงแบบหลายปีในการดูครั้งแรกเกี่ยวกับโปรแกรมหกรายการที่ออกฉายบนดีวีดีโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับ Blue Collar Comedy Tour รวมถึง Larry the Cable Guy: Health Inspector ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา Paramount กำหนดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 31 มีนาคมในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2548 ก่อนที่จะแลกเปลี่ยนการออกฉายกับ Lionsgate ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

กระแสตอบรับ

           บนเว็บไซต์รวบรวมบทวิจารณ์ Rotten Tomatoes บทวิจารณ์จากนักวิจารณ์ 38 คน คิดเป็น 5% ของทั้งหมด โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7/10 ความเห็นโดยรวมของเว็บไซต์ระบุว่า "หนังตลกสุดสยองเรื่องนี้เป็นหนังที่แฝงความดิบเถื่อนอย่างโจ่งแจ้ง ฉายา "หนังตลกสุดสยองเรื่องนี้ไม่ได้ "ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม"" Metacritic ซึ่งใช้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ 21 จาก 100 คะแนน จากนักวิจารณ์ 14 คน ซึ่งบ่งชี้ว่าโดยทั่วไปแล้วเป็นบทวิจารณ์ที่ "ไม่ค่อยดี" ผู้ชมที่ CinemaScore สำรวจความคิดเห็น ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ในระดับ "B+" ตั้งแต่ A+ ถึง F Rotten Tomatoes จัดอันดับ Larry The Cable Guy: Health Inspector ไว้ที่อันดับ 85 ในรายชื่อ "100 ภาพยนตร์ที่ได้รับบทวิจารณ์แย่ที่สุดตลอดกาล: 2000-2009"